Amazon Kindle ให้บริการสู่นักอ่านมาได้มากกว่า 8 ปีแล้ว แต่น่าแปลกใจอยู่อย่างที่ดันให้ความสำคัญกับ Font และ Typography ไม่มากเท่าที่ควร (ยกตัวอย่าง Google ออกแบบฟอนต์ Roboto เพื่อใช้กับ Android เฉพาะ ส่วน Apple นั้นทำฟอนต์ San Francisco เพื่อ Apple Watch เช่นกัน) แต่เครื่องมือที่มีหน้าที่เพื่อการอ่านอย่างเดียวอย่าง Kindle นั้นกลับใช้ฟอนต์ PMN Caecilia ที่ออกแบบโดย Fontfoundry มาก่อนแล้ว

ถามว่าการมีฟอนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะมันสำคัญอย่างไร? เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า อุปกรณ์แต่ละตัวมีรายละเอียดและคุณสมบัติต่างกันไปนะครับ อย่างจอ eInk ของ Kindle นั้นแท้จริงแล้ว ให้ความละเอียดต่ำในรุ่นแรก ๆ (ก่อนจะออก Kindle Voyage) ดังนั้นถ้า Amazon ใส่ใจรายละเอียดในส่วนนี้แต่แรก การออกแบบจะเน้นย้ำความใส่ใจว่าผู้อ่านจะได้รับประสบการณ์ในการอ่านที่ดีที่สุด จะทำให้ Amazon Kindle ได้รับการยกย่องมากกว่าที่เคยครับ

และไม่ใช่แค่ฟอนต์ที่เดิมมีปัญหานะครับ แต่เป็นการจัดการ Layout ด้วย ก่อนหน้าที่ ไม่ว่าเราจะเตรียมเอกสารสำหรับอ่านหน้าหนังสือบน Kindle ดีขนาดไหน ตัว Kindle จะปรับหน้าจอเราใหม่เป็นแบบ Justify ซ้าย-ขวาสองข้างเท่ากัน ซึ่งสิ่งนี้หนังสือปกติไม่ทำกัน เพราะเราจะใช้การย่อหน้าบ้าง หรือปรับเลย์เอาท์ที่จะช่วยให้การอ่านเป็นไปอย่างเรียบง่ายขึ้น เป็นมิตรต่อสายตาโดยใส่คำให้เต็มบรรทัด แต่จะไม่พยายาม Justify ให้เท่ากันระหว่างซ้าย-ขวา แถมยังใช้ Hyphen หรือขีดกลางมาช่วยเชื่อมคำที่ถูกตัดไป

ดูภาพก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา)

ตอนนี้ Amazon ปล่อยอัพเดทสำหรับ Kindle App บน iOS และ Android ก่อนนะครับ ใครมีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ไปเปิดมาลองดูฟอนต์และเลย์เอาท์ใหม่ได้เลย

ขณะที่ตัว eInk Device จะตามมาแน่นอน แต่คงค่อย ๆ ปล่อยครับ หากเราได้รับความคืบหน้าเมื่อไรจะรีบแจ้งให้ทราบอีกที

โปรโมชั่น Kindle
Kindle Touch สีขาว: 3490 บาท
Kindle Paperwhite: 4990 บาท
Kindle Voyage: 9490 บาท

สนใจสั่งซื้อได้ที่ GROOV.asia

ที่มา fastcodesign